Back To Newsroom

โดย เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ และเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาต ประเทศไทย: ยุติการควบคุมตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์อย่างไม่มีกําหนดโดยทันที และสอบสวนการเสียชีวิต ระหว่างถูกคุมขัง

27 April 2023

ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์รายที่สองเสียชีวิตในสถานกักกันคนเข้าเมืองของไทยภายในเวลาสองเดือน

นายมัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (มูฮัมหมัด ตูร์ซุน) อายุ 40 ปี ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ซึ่งถูกคุมขังไว้ที่สถานกักกันคนเข้าเมืองของไทยตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2557 เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คาดว่าเขาเสียชีวิตด้วยอาการตับวาย

 

นายมัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน (มูฮัมหมัด ตูร์ซุน) อายุ 40 ปี ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ซึ่งถูกคุมขังไว้ที่สถานกักกันคนเข้าเมืองของไทยตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2557 เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คาดว่าเขาเสียชีวิตด้วยอาการตับวาย

 

มีรายงานว่า มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและอาเจียนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ นําไปสู่การเสียชีวิตของเขา สภาพสุขภาพของเขาแย่ลงจนไม่สามารถพูดได้และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 และเสียชีวิตในวันเดียวกัน เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ และเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยืนยันการเสียชีวิตของเขาต่อสาธารณะ แจ้งผลการชันสูตรทางการแพทย์และสอบสวนการเสียชีวิตใน ระหว่างถูกคุมขัง

 

การควบคุมตัวโดยพลการและการทรมานตามกฎหมายไทย

มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน เดินทางถึงประเทศไทยในปี 2557 เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชายหญิงและเด็กชาวอุยกูร์ 350 คนที่หลบหนีการ ประหัตประหารรวมถึงอาชญากรรมต่อมนุษยชาติโดยทางการจีน แต่พวกเขาก็ถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ไทย ใน เดือนกรกฎาคม 2558 ผู้หญิงและเด็กอย่างน้อย 170 คนถูกส่งไปตุรกี ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาชายและหญิงมากกว่า 100 คนถูกส่งตัว กลับไปยังจีน ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับที่อยู่หรือการปฎิบัติต่อพวกเขา

 

การกระทำดังกล่าวถือว่าขัดต่อกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศที่ชาวอุยกูร์ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบทนายความ ไม่ให้ พบUNHCR ไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเพียงพอ ถูกกักตัวตลอด 24 ชั่วโมงในห้องที่แออัดและสกปรกโดยไม่มีอาหารที่ เพียงพอหรืออาหารฮาลาล ไม่สามารถออกกําลังกาย หรือได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ทำให้ สุขภาพของพวกเขาแย่ลง

 

ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์เหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยพลการมานานกว่าเก้าปีโดยไม่รู้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด การควบคุมตัวของพวก เขาถือเป็นการทรมานตามข้อห้ามทั้งจากพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการบังคับให้บุคคลสูญหาย 

ของประเทศไทย2 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่ไร้มนุษยธรรมหรือ ย่ำยีศักดิ์ศรีอื่นๆ(UNCAT) และขัดต่อพันธกรณีของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ ทางการเมือง(ICCPR)

 

การเสียชีวิตก่อนหน้านี้

นับตั้งแต่กลุ่มอุยกูร์ถูกควบคุมตัวในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 รายในห้องกักซึ่งรวมถึงเด็กสองคน สองเดือนก่อนเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 อาซิซ อับดุลลาห์ ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ วัย 49 ปี เสียชีวิตในหัองกักคนเข้าเมืองสวนพลู มีรายงานว่าเขาเสียชีวิต ด้วยโรคปอดบวมหลังจากถูกกักเป็นเวลาเกือบเก้าปีที่ห้องกักตัวคนเข้าเมือง ครอบครัวของเขายังไม่มีข้อมูลว่าเขาเสียชีวิต อย่างไรและทําไม และยังไม่มีการแจ้งผลการชันสูตรพลิกศพกับพวกเขา

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของไทย4 กําหนดให้มีการชันสูตรพลิกศพเพื่อสอบสวนการเสียชีวิตของอาซิซ อับดุล ลาห์ และ มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน เครือข่ายเพื่อสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ และเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติขอเรียกร้องให้ อัยการเปิดการสอบสวนการเสียชีวิตของพวกเขาและอนุญาตให้ครอบครัวของพวกเขามีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ด้วย

 

จากการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ทรุดโทรมของผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ยังคงถูกคุมขัง เราจึงขอให้ รัฐบาลไทยเปิดเผยภาวะสุขภาพของผู้ลี้ภัยต่อสาธารณะ รวมทั้งให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าเยี่ยมและรักษาผู้ที่เจ็บป่วยได้ อย่างทันท่วงที

 

เราขอเรียกร้องให้ประเทศไทยในฐานะที่อาสาเป็นหนึ่งในผู้ผลักดันการดำเนินการตามข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้าย ถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบและปกติ(GCM Champion Country) แสดงบทบาทนำในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของ ข้อตกลงระหว่างประเทศดังกล่าว โดยจัดให้มีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและยุติการคุมขังชาวอุยกูร์และผู้ลี้ภัยทุกคนใน ประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนด

 

จากการที่ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกกักอยู่ที่ห้องกักคนเข้าเมืองต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เป็นภัยต่อชีวิต ทางเครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัย และคนไร้รัฐ และเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลไทย:

  1. ปล่อยตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวในประเทศไทยทันทีและยุติการควบคุมตัวผู้ลี้ภัยอย่างไม่มี กําหนดและโดยพลการ
  2. อนุญาตให้ทนายความ องค์กรเพื่อสิทธิผู้ลี้ภัย และองค์กรทางการแพทย์เข้าถึงผู้ลี้ภัยรวมถึงผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ ถูกควบคุมตัวในประเทศไทยได้อย่างสม่ำเสมอ
  3. อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในประเทศไทยเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม
  4. ดําเนินการสืบสวนและสอบสวนการเสียชีวิตของ มัตโตห์ตี มัตตูร์ซุน และ อาซิซ อับดุลลาห์อย่างเต็มรูปแบบ และเปิดเผยต่อสาธารณะ

 


 

1 สภาอุยกูร์โลก, สอบสวนการเสียชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในสถานกักกันคนเข้าเมืองไทย ผู้ถูกคุมขังชาวอุยกูร์ที่เหลือต้องได้รับการปล่อยตัว, 17 กุมภาพันธ์ 2566 https://www.uyghurcongress.org/en/press-release-death-of-uyghur-refugee-in-immigration-detention-facility-must-be-investigated-remaining-uyghurdetainees-held-since-2014-must-be-released

2 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565, มาตรา 5

3 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พ.ศ. 2539 https://www.ohchr.org/en/instruments-mechanisms/instruments/internationalcovenant-civil-and-political-rights

4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา | ตํารากฎหมายไทย (แปล) (samuiforsale.com) มาตรา 150

Recommended

DURABLE SOLUTIONS

Sept. 25, 2023

Addressing the Issues of Rohingya Detention and Human Rights Violations in India at G20

According to India’s Ministry of Home Affairs (MHA), there are around 40,000 Rohingya refugees in India with approximately 18,000 registered with the UN High Commissioner for Refugees (UNHCR).1 The Indian state has historically welcomed refugees from different countries and communities. However, during the genocidal violence experienced by Rohingyas in 2017, the Minister of State for Home Affairs in India issued a directive to state governments asking them to identify all “illegal immigrants” within their respective borders, for deportation.

DURABLE SOLUTIONS

Oct. 22, 2020

Virtual donor conference on “Sustaining Support for the Rohingya Refugee Response”

The Asia Pacific Refugee Rights Network (APRRN) welcomes the call for a renewed commitment to sustained support for the humanitarian response and to comprehensive and sustainable solutions for Rohingya refugees and host communities across the region. While the displacement and statelessness crisis faced by the Rohingya ultimately requires a solution by Myanmar, protection, legal documentation, and access to services for Rohingya in host countries across the region are urgently needed now.

DURABLE SOLUTIONS

Aug. 1, 2023

APRRN CALLS ON THE GOVERNMENT OF INDIA TO IMMEDIATELY STOP ARBITRARY ARRESTS AND INDEFINITE DETENTION OF ROHINGYA MEN, WOMEN AND CHILDREN ACROSS INDIA

APRRN calls on the Government of India to respect the rule of law and immediately cease arbitrary arrests and indefinite detention of Rohingya refugees. APRRN condemns the recent incident on 18 July where prison authorities in Hiranagar in the Indian Union Territory of Jammu and Kashmir used excessive force when shooting teargas at a group of 269 Rohingya men, women and children who were attempting to break free, resulting in several people being injured and the death of a five-month-old child. APRRN further condemns the arrest and detainment of over 200 Rohingya refugees, including women and children, on 24 July in Uttar Pradesh.